เบรคมอเตอร์ไซค์ออโต้ มีกี่แบบ และใช้อย่างไรจึงปลอดภัย

เบรคมอเตอร์ไซค์ออโต้ มีกี่แบบ และใช้อย่างไรจึงปลอดภัย เรื่องความเร็วถือว่าสำคัญอย่างมากเมื่อขี่มอเตอร์ไซค์บนท้องถนน ไม่ใช่แค่รถต้องเร็วต้องแรงเท่านั้น แต่ยังต้องหยุดเมื่อควรหยุดและควบคุมความเร็วให้เหมาะสมได้ ซึ่งเรื่องนั้นต้องอาศัยระบบเบรคที่มีประสิทธิภาพ และเมื่อพูดถึงระบบเบรคเราก็มีเรื่องน่ารู้มาฝากอีกเช่นเคย เชื่อว่าหลายคน (รวมถึงคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์ทุกวัน) ยังไม่รู้จักระบบเบรคมอเตอร์ไซค์ดีพอ ไม่รู้ว่าเบรคมอเตอร์ไซค์มีกี่ประเภท รวมถึงยังไม่รู้ด้วยว่ามอเตอร์ไซค์ก็มีวิธีเบรคที่ถูกต้องและปลอดภัยด้วย ระบบเบรคมอเตอร์ไซค์ ระบบเบรคมอเตอร์ไซค์โดยทั่วไปแบ่งเป็น 3 ระบบได้แก่ เบรคหน้า เบรคหลัง และเบรคด้วยเครื่องยนต์ หรือ Engine Brake โดยทั้ง 3 ระบบ จะแตกต่างกันที่ลักษณะการใช้งาน ดังนี้ 1.เบรคหน้า (Front Brake) เบรคหน้า เป็นระบบเบรคมอเตอร์ไซค์ที่มีประสิทธิภาพในการชะลอความเร็วและหยุดรถมากที่สุด เหมาะกับการเบรคที่ไม่ต้องการระยะเบรคมากนัก โดยก้านเบรคหน้าจะติดตั้งอยู่ที่แฮนด์ด้านขวาของผู้ขับขี่ ระบบเบรคหน้าทำงานโดยส่งแรงบีบจากก้านเบรกไปตามสายเพื่อสูบฉีดน้ำมันเบรคไปยังคาลิเปอร์ให้บีบผ้าเบรคเข้ากับจานเบรค เมื่อต้องเบรคแบบกะทันหันการบีบก้านเบรคหน้าเบาๆ แล้วลงน้ำหนักช้าๆ จนรถหยุดก็เพียงพอแล้ว และการบีบก้านเบรคหน้าแบบเต็มแรงมือไปเลยนั้นก็มีโอกาสที่รถมอเตอร์ไซค์จะเสียหลักได้ 2. เบรคหลัง (Rear Brake) ระบบเบรคหลังจะมีประสิทธิภาพในการหยุดรถมอเตอร์ไซค์น้อยกว่าระบบเบรคหน้า แต่ส่วนมากจะใช้เพื่อชะลอความเร็วของรถจึงเหมาะกับการเบรคที่ต้องเผื่อระยะเบรคมากหน่อย ไม่แนะนำให้ใช้ในกรณีที่ต้องเบรคแบบกะทันหันเพราะถ้าผู้ขับขี่กะระยะเบรคผิดรถอาจจะหยุดไม่ทันและเกิดอุบัติเหตุได้ โดยระบบเบรคหลังจะติดตั้งอยู่ที่แฮนด์ด้านซ้ายของผู้ขับขี่ 3. เบรคด้วยเครื่องยนต์ (Engine Brake) ระบบนี้เป็นการชะลอความเร็วด้วยแรงฉุดของรอบเครื่องยนต์ที่ตกลงจากรอบปัจจุบันหลังจากเราปล่อยคันเร่ง เป็นกลไกของเครื่องยนต์ สามารถชะลอความเร็วได้โดยไม่ต้องบีบก้านเบรก…

ขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างไรให้ปลอดภัยเมื่อต้องเจอกับถนนที่ลื่น

ขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างไรให้ปลอดภัยเมื่อต้องเจอกับถนนที่ลื่น การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ในขณะฝนตกนั้นเป็นที่รู้กันว่าจะก่อให้เกิดอันตรายอย่างมาก ไม่เพียงแต่วิสัยทัศน์ในการมองเห็นของผู้ขับขี่ลดลง แต่ยังมีอันตรายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นตอนฝนตกแล้วถนนลื่นอีกด้วย เนื่องจากความต้านทานของยางรถกับพื้นถนนน้อยลงทำให้การทำงานของเครื่องยนต์รถมอเตอร์ไซค์ทรงตัวได้ยากขึ้น ผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ควรต้องมีวิธีป้องกันเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ทำไมตอนฝนตกถนนถึงลื่นกว่าปกติ เมื่อฝนตกถนนจะเปียกและลื่นกว่าปกติมาก การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ในขณะที่ฝนตกจึงมีอุปสรรคมากกว่าเดิม เหตุที่ถนนลื่นตอนฝนตกนั้นเพราะมีน้ำฝนมาเป็นตัวขั้นกลางระหว่างล้อรถมอเตอร์ไซค์กับถนน โดยในช่วง 10 นาทีแรกน้ำฝนที่ตกลงมาจะมีการผสมเข้ากับฝุ่นผงที่อยู่บนถนนทำให้เกิดเป็นดินโคลน ทำให้ยางล้อรถมีความต้านทานน้อยลงมาก ยางรถไม่เกาะถนน ช่วงที่มีฝนตกลงมาแรก ๆ จึงควรต้องระวังมากเป็นพิเศษ เมื่อฝนเริ่มตกไปสักระยะความต้านทานจะสูงขึ้นแต่ก็ยังคงต้องระวังอยู่เพราะล้อรถยังคงมีแรงต้านทานไม่เท่ากับวิ่งบนถนนแห้งปกติ อุบัติเหตุทางถนนที่มักเกิดในช่วงเวลาฝนตก เมื่อฝนตกจึงทำให้ถนนลื่น แน่นอนว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าปกติจึงจำเป็นที่จะต้องมีความระมัดระวังในการขับขี่ให้มากขึ้นจากอุบัติเหตุต่าง ๆ โดยอุบัติเหตุทางถนนที่มักจะพบเจอได้ในช่วงเวลาที่ฝนตก คือ 1. อุบัติเหตุที่เกิดจากการชนกัน เนื่องจากเมื่อฝนตกถนนจะมีความลื่นมากกว่าปกติทำให้การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์มีการทรงตัวและสมรรถภาพในการเบรกรถได้ยากขึ้น ทำให้อาจจะเกิดเหตุชนกันได้บนท้องถนน ไม่ว่าจะเป็นการชนท้ายหรือเกี่ยวกันล้ม 2. ชนปะทะกับผู้คนที่กำลังข้ามถนน วิสัยทัศน์ในการขับขี่จะลดลงเมื่อต้องขับขี่ท่ามกลางสายฝนทำให้ผู้ขับขี่อาจจะมองไม่เห็นสัญญาณไฟจราจรหรือสัญญาณการข้ามถนนบนทางม้าลายทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ง่าย 3. ล้อปัดของรถที่เกิดจากการเบรกกะทันหัน การเบรกรถกะทันหันอาจจะทำให้ล้อรถปัดและไปเฉี่ยวชนรถคันอื่นที่อยู่ใกล้ ๆ หรือปัดให้รถล้มเอง 4. การชนที่เกิดจากการมองเห็นไม่ชัดเจน นอกจากอุปสรรคจากถนนลื่นแล้วยังมีอุปสรรคในการมองเห็น วิสัยทัศน์ของผู้ขับขี่ที่ลดลงตอนฝนตก สาเหตุนี้ก็จะเป็นสาเหตุสำคัญที่สามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุอื่น ๆ ตามมาได้ 5. ขับรถชนสิ่งกรีดขว้างบนถนน การมองเห็นไม่ชัดเจนของผู้ขับขี่รถในขณะฝนตกอีกอย่างหนึ่ง ที่ต้องระวังคือการขี่รถชนกับสิ่งกรีดขวางบนท้องถนน ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบาท ไหล่ทาง และอื่น…

ต่ออายุ พรบ. รถมอเตอร์ไซค์ มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?

ต่ออายุ พรบ. รถมอเตอร์ไซค์ มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง? เรื่องของ พรบ.มอเตอร์ไซค์นั้นค่อนข้างสำคัญอย่างมาก ไม่ว่าจะเรื่องของเบี้ยประกัน ความคุ้มครอง และ พ.ร.บ มอเตอร์ไซค์นี้ก็ถือเป็นประกันภาคบังคับที่ทุกคนต้องทำด้วย ซึ่งสายซิ่งหลาย ๆ คนจำเป็นต้องทำความเข้าใจอย่างที่สุด โดยเฉพาะขั้นตอนการทำเพื่อการเตรียมตัวที่ถูกต้อง ขั้นตอนการเตรียมตัวเมื่อคิดต่อ พ.ร.บ. มอเตอร์ไซค์ ในส่วนของการต่อ พ.ร.บ. มอเตอร์ไซค์นั้นต้องบอกก่อนว่าอายรุรถจะต้องไม่เกิน 5 ปี โดยสามารถซื้อ พ.ร.บ. ได้เลยไม่ต้องเลือกซื้อจากตัวแทน โบรกเกอร์ หรือบริษัทที่ขายประกัน แต่หากอายุรถไม่เกิน 5 ปีขึ้นไปจะต้องตรวจสภาพรถก่อนเสมอที่สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) และเมื่อผ่านการตรวจแล้วเรียบร้อยจึงค่อยเตรียมเอกสารเพื่อนำไปยื่นต่อไป โดยจะมีด้วยกัน คือ 1.บัตรประชาชน 2.เล่มทะเบียนรถ (ถ่ายสำเนามาเผื่อด้วยก็ได้) 3.ใบรับรองการตรวจสภาพรถ ทั้งนี้ ต้องไม่ปล่อยให้ พ.ร.บ. มอเตอร์ไซค์ของตัวเองขาดเกินกว่า 3 ปีโดยเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ. เมื่อเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้น รวมถึงยังทำให้ทะเบียนรถถูกระงับไปด้วย ต้องมีการจดทะเบียนใหม่ และต้องมาจ่ายค่าภาษี + ค่าปรับย้อนหลังต่อเดือนที่ 1% ด้วย…